การปรับตัวของราคาทองคำในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 สะท้อนถึงความผันผวนเล็กน้อยในตลาด โดยมีการลดลงเพียง 0.80 ดอลลาร์ หรือ -0.03% ปิดที่ระดับ 2,033 ดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในแนว Sideways หมายความว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในทิศทางของราคา แต่มีการเคลื่อนไหวในระดับที่ใกล้เคียงกันอยู่ในช่วงของราคาสูงสุดที่ 2,038 ดอลลาร์ และต่ำสุดที่ 2,020 ดอลลาร์
การวิเคราะห์โดยบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เน้นย้ำถึงความเคลื่อนไหว Sideways ของราคาทองคำที่สัมพันธ์กับการแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยของเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของ Bond yield หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด อีกทั้งสภาทองคำโลก (WGC) ยังเปิดเผยถึงความต้องการทองคำที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2567 ซึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ในหลายประเทศ ทำให้กองทุน SPDR ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 1.44 ตัน
ในส่วนของการวิเคราะห์ราคาทอง มีการคาดการณ์ว่าหากราคาทองคำสามารถทะลุแนวต้านที่ 2,045-2,050 ดอลลาร์ได้ ราคาอาจจะปรับตัวขึ้น แต่ยังคาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยมแบบ Sideways แนวรับและแนวต้านของราคาทองคำในตลาดโลกและราคาทองคำแท่งในประเทศไทยถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้นักลงทุนสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างมีกลยุทธ์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ค่าเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำแท่งในประเทศปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
สำหรับนักลงทุน การใช้กลยุทธ์ Wait & See หมายถึงการรอจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าซื้อ โดยคำนึงถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญและการเคลื่อนไหวของราคาในกรอบที่ได้รับการวิเคราะห์ไว้ การติดตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำและเงื่อนไขทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลเพียงพอและลดความเสี่ยงในการลงทุน